Thursday, September 3, 2009

สลากกินแบ่งในอดีต

นักสะสมของเก่าหลายท่าน เมื่อมาพบปะสังสรรค์กัน ก็มักนำ ของสะสมมากมายหลายชนิดมาอวดกัน เพื่อโชว์ว่าของของใครจะเก่ากว่ากัน ของอขงใครจะสมบูรณ์ กว่ากัน หรือของของใครจะมีราคามากกว่ากัน ของสะสมที่ว่านั้นมากมายหลากหลายชนิด แล้วแต่ใครจะชอบ อะไร อาทิ เช่น บางคนชอบสะสมเครื่องกระเบื้อง เช่น ถ้วยโถโอชาม รวมไปถึงตุ่มมังกร อ่างบัว กระถาง บัวโถพลู เป็นต้น
บางท่านก็ชอบสะสมเครื่องแก้วจำพวกคริสตอล แก้งเจียรนัยสีสดสวยหลากรูปทรงน่ารักหลายขนาด ซึ่งผลิตจากประเทศยุโรปเครื่องแก้วดังกล่าว ยังร่วมทั้งโถแป้ง ขวดน้ำสีเขียว แดง ส้ม เหลือง โถน้ำตาล โถปริก กรอปรูป ลูกบิดตู้ ปุ่มติดลิ้นชัก ถาดกระเบื้องสวยๆ มีลายกุหลาบ มีตัวหนังสือที่เป็นมงคลเช่น “เจริญ” .”สุขเจริญ”หรือชื่อสกุล ของผู้สั่งทำ อาทิ แอม,เอ,โมกุล,อับดุลราฮิม,นานา เป็นต้น ซึ่งของสะสมที่ว่านี้ปัจจุบันเริ่มเป็นของที่หายากขึ้นกว่าแต่ก่อนเพราะของเก่ามีแต่จะแตกหัก ชำรุดเสียหายไป แต่ผู้ที่นิยมของเก่ารักการสะสมกลับทวีจำนวนขึ้นเป็นลำดับ อีกทั้งยังมีพ่อค้าจากต่างประเทศมากว้านซื้อของสะสมดังกล่าวกลับไปยังประเทศตน หรือนำไปค้าขายกำไรอีกต่อหนึ่ง เป็นเหตุให้ของสะสมในบ้านเราเหลือน้อยลงและราคาสูงขึ้นตามลำดับ

ของสะสมชนิดหนึ่งที่นักสะสมรุ่นเก่าชื่นชอบกันมากก็คือ สลากกินแบ่ง หรือ ลอตเตอรี่เก่า เนื่องจากสลากกินแบ่งเก่านั้น จะเสาะหามาสะสมไม่ยากและราคาไม่สูงนัก และข่าวที่สร้างความอือฮาให้แก่ประชาชนเมื่อเดือนสิงหาคม 2541 คือ หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 16 สิงหาคม 2541 ลงพาดหัวตัวไม้ว่า เจอแล้วลอตเตอรี่สมัย ร.6 สรุปเนื้อหาได้ว่า ในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่6 คือ เมื่อประมาณ 80 ปีเศษมาแล้ว ได้มีการออกลอตเตอรี่เสือป่า ฉบับละ 1 บาท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดซื้ออาวุธปืน และเครื่องใช้ต่างๆ ในกิจการของกองเสือป่า ซึ่งล้นเกล้ารัชกาลที่ 6 ทรงก่อตั้งขึ้น สลากฉบับดังกล่าว มีรางวัลรวม 683 รางวัลเป็นเงิน 60,000 บาท และหักเข้าบำรุงกองเสือป่า 40,000 บาทลสกฉบับดังกล่าวเป็นที่ฮือฮากันมาก เพราะมีผู้เสนอขายเป็นราคาเลข 7 ตัว ซึ่งผู้เขียนได้ยินก็เกิดอาการขนลุกชันเพราะว่าคราดไม่ถึงว่าสลากเก่าๆ จะมีราคา แพงถึงขนาดนี้



ล็อตเตอรี่เสือป่าล้านบาท ประมาณปี พ.ศ.2463
สลากกินแบ่งในอดีตที่สนใจอีกชุดหนึ่งชื่อว่า สลากกินแบ่งชุดห้าตรา คือออกสลาก 5ชุด ๆ ละ 1 ตรา


ชุดตรางู

ชุดที่ 1 ชุดตรางู ออกเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2479 เป็นสลากกินแบ่งบำรุงเทศบาลราคาฉบับราคาละ1 บาท แต่ละฉบับ ยังแบ่งออกเป็น 4 ส่วนๆ ส่วนละ 25 สตางค์ สลากจำหน่าย 500,000 ฉบับ มีราคา 267 รางวัล รางวัลที่1 80,000 บาท ส่วนรางวัลอื่นลดหลั่นกันไป


ชุดตรานาค

ชุดที่ 2 ตรานาค ออกเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2479 เป็นสลากกินแบ่งบำรุงเทศบาล รูปนาคเล่นคลื่น ราคาฉบับละ 1 บาทแต่ละฉบับแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ส่วนละ25 สตางค์ออกจำหน่าย 500,000 ฉบับ มี 267 รางวัล รางวัลที่1 เป็นเงิน 80,000 บาท ส่วนรางวัลอื่นลดหลั่นกันไป


ชุดตรานางมัจฉา
ชุดที่3 ชุดตรานางมัจฉา ออกเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2480 เป็นสลากกินแบ่งบำรุงเทศบาล 1 ในชุด 5 ตราราคาฉบับละ 1 บาท แต่ละฉบับ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ส่วนละ 25 สตางค์ จำนวนจำนวนจำหน่ายจ่ายรางวัลเช่นเดียวกับชุดตรางูและชุดตรานาค


ชุดตราราชรถ

ชุดที่4 ตราราชรถ ออกเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2481 เป็นสลากกินแบ่งบำรุงเทศบาล หนึ่งในชุด ห้า ตราราคาฉบับละ 1 บาท แต่ละฉบับ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ส่วนละ 25 สตางค์ จำนวนจำนวนจำหน่ายจ่ายรางวัลเช่นเดียวกับชุดตรางูและชุดตรานาค และชุดตรานางมัจฉา


ชุดตราม้าอุปการ

ชุดที่5 ตราม้าอุปการ ออกเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2481 เป็นสลากกินแบ่งบำรุงเทศบาล อยู่ในชุด ห้า ตราราคาฉบับละ 1 บาท แต่ละฉบับ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ส่วนละ 25 สตางค์ จำนวนจำนวนจำหน่ายและจ่ายรางวัลเช่นเดียวกับ สี่ชุดข้างต้น


สลากกินแบ่งงานรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2483

สลากกินแบ่งดังกล่าวเป็นสลากที่ออกในงานฉลองรัฐธรรมนูญวันที่ 14 ธันวาคม 2483 ในยุคนั้น งานที่ ยิ่งใหญ่งานหนึ่งในรอบปี คือ งานฉลองรัฐธรรมนูญ ซึ่งจัดขึ้น ณ สวนลุมพินี และที่สืบทอดสนถึงทุกวันนี้ก็คือ งานประกวดนางสาวไทย ซึ่งจัดคู่กับงานฉลองรัฐธรรมนูญมาตลอด เพิ่งจะมาจัดการประกวดในงาน วชิรวุธานุสรณ์ เมื่อประมาณ 20 ปีเศษนี้เอง สลากกินแบ่งแลองรัฐธรรมนูญ จำหน่าย ฉบับละ 1 บาท พิมพ์ ออกจำหน่าย 100,000 ฉบับ
รางวัลที่ 1 เงินรางวัล 100,000 บาท
รางวัลที่ 2 มี 5รางวัลๆ ละ 50,000 บาท
รางวัลที่ เลขท้าย 3 ตัวหมุน 2 ครั้ง 1,600 รางวัล ๆ ละ 200 บาท
รวมรางวัลทั้งสิ้น 1876 รางวัล รามเงิน 600,000 บาท


สลากกินแบ่งรัฐบาลประจำเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2491 ฉบับเดียวมีสิทธิถูกรางวัล 2 ครั้ง

สลากกินแบ่งที่ดูจะพิเศษ กว่าอันอื่นๆ กล่าวคือ ซื้อครั้งเดียว สามรถ ถูกได้2 ครั้ง สลากฉบับนี้ จะจำหน่ายในราคาฉบับละ 3 บาท กำหนดออกครั้งแรก วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2491 และออกครั้งที่ 2 วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2491 เรียกว่ามีสิทธิ์ ถูกรางวัล 2 ครั่ง 2 วันติดกันทีเดียวถ้าเป็นศัพท์ ในสมัยนี้ก้อเรียกว่า 2เด้ง รางวัลที่1 เงินรางวัล 120,000 บาท รางวัลที่ 2 มีรางวัลๆ ละ 20,000 บาท รางวัลเลขท้าย 3 ตัวหมุน 2 ครั้ง 1,600 รางวัลๆ 200 บาท รวมรางวัลทั้งสิ้น 1779 รางวัล รวมเงิน 700,000บาท นอกจากที่กล่าวมาแล้วยังมีสลากกินแบ่งที่ออกในวาระต่างๆ กัน อีกจำนวนมากซึ่งพอจะนำมาเล่า สู่กันฟังได้ ตามโควต้าหน้ากระดาษที่ได้มาจากท่าน บอกอ ลอตเตอรี่ ในโอกาสพิเศษที่ว่านี้ ได้แก่


สลากกินแบ่งบำรุงเทศบาลตราเทวดา พ.ศ.2479
ราคาจำหน่ายฉบับละ 1 บาท กำหนดออกวันที่ 8 เมษายน พ.ศ.2479


ล็อตเตอรี่พิเศษรัฐบาลสยาม พ.ศ.2477
ราคาจำหน่ายฉบับละ 2 บาท กำหนดออกเดือนตุลาคม พ.ศ.2477


สลากกินแบ่งสถานกาสิโนของรัฐบาล พ.ศ. 2482
ราคาจำหน่ายฉบับละ 1 บาท กำหนดออกวันอาทิตย์ที่ 1 ธันวาคม พ.ศ.2482





สลากกินแบ่งบำรุงงานวันชาติ พ.ศ.2485
ราคาจำหน่ายฉบับละ 1 บาท กำหนดออกภายในวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2485
ในปัจจุบันนี้น้อยคนจะรู้ว่าเมื้อประมาณ 50-60 ปีที่แล้วเรามีวันชาติ คือวันที่ 24 มิถุนายน คือวันที่ ซึ่งจะมีเพลงปลุกใจของหลวงเรา มีวันชาติ คือวันที่ 24 มิถุนายน ซึ่งจะมรเพลงปลุกใจของหลวงวิจิตรวาทการ เปิดกระหึ่มวันละหลายเวลา เพลงนั้นขึ้นต้นว่า ยี่สิบสี่มิถุนายนมาบรรจบ คำนึงน้อมจิตรอธิษฐาน... ผู้เขียนจำได้ว่า เมื่อประมาณปี พ.ศ.2490 ผู้เขียนยังเป็นเด็กนักเรียนชั้นประถมอยู่โรงเรียนวัดราชสิทธาราม เจริญพาสน์จะต้องยืนร้องเพลงชาติที่ว่านี้ในตอน 08.30น.หน้าเสาธงชาติทุกวัน และยังจำเนื้อเพลงที่ว่าได้จนถึงบัดนี้


สลากกินแบ่งรัฐบาลไทย บำรุงงานวันกาชาด พ.ศ.2486

เป็นสลากที่ออกในวาระพิเศษเพื่อหาเงินบำรุงงานวันชาติ 24 มิถุนายน 2486 กำหนดออกวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ.2486 ราคาจำหน่าย ฉบับละ 1 บาท


สลากกินแบ่งรัฐธรรมนูญแห่งสยาม พ.ศ.2476

เป็นสลากที่ออกในวาระพิเศษเพื่อหาเงินจัดวานฉลองวันรัฐธรรมนูญ เมื่อปี พ.ศ. 2476 กำหนดออกวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ.2476 ราคาจำหน่าย ฉบับละ 1 บาท
หมายเหตุ : ภาพสลากส่วนใหญ่ได้รับความอนุเคราะห์จาก คุณเฉลิมศักดิ์ รามโกมุท แห่งบ้านมรดกไทย ริมคลองโอ่งอ่าง ตรงข้ามวัดเพทธิดาราม กทม.พ.ต.ท.อารักษ์ รามโกมุท ผู้เรียบเรียง

ประวัติสำนักงาน สลากกินแบ่งรัฐบาล


การออกสลากกินแบ่งฯ ในประเทศไทยตามประวัติความเป็นมาได้เริ่มมีขึ้นในสมัยพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 โดยมีฝรั่งชาวอังกฤษชื่อ ครูอาลบาสเตอร์เป็นผู้นำลักษณะการออกรางวัลสลากแบบยุโรปมาเผยแพร่เป็นคนแรกโดยเรียกว่า “ลอตเตอรี่” โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้กรมทหารมหาดเล็กออกลอตเตอรี่เป็นครั้งแรกในประเทศ ไทย เมื่อปี พ.ศ. 2417 เนื่องในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาของพระองค์ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยเหลือ พ่อค้าต่างชาติที่นำสินค้ามาร่วมแสดงในการจัดพิพิธภัณฑ์ที่ตึกคองคาเดีย ในพระบรมมหาราชวัง


และต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ. 2460 ซึ่งเป็นช่วงที่อยู่ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 สหราชอาณาจักรอังกฤษซึ่งเป็นประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรประสงค์จะกู้เงินจากประเทศไทยเพื่อใช้ในการสงคราม แต่ไม่อาจกู้โดยตรงจากรัฐบาลไทยได้ เพราะจะเป็นการกระทบกระเทือนงบประมาณ สภารักชาติแห่งประเทศอังกฤษ จึงดำเนินนโยบายกู้เงินจากประชาชนด้วยการออกลอตเตอรี่โดยได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว


และต่อมาในปี พ.ศ.2466 ได้ทรงพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ออก “ลอตเตอรี่เสือป่าล้านบาท” เพื่อหารายได้บำรุงกองเสือป่าอาสาสมัครโดยพิมพ์ จำนวน 1 ล้านฉบับ จำหน่ายฉบับละ 1 บาท


ต่อมาในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ในปี พ.ศ. 2476 รัฐบาลมีนโยบายที่จะลดเงินรัชชูปการ (เงินที่เรียกเก็บจากชายไทยที่มิต้องรับราชการทหาร) ทำให้รัฐขาดรายได้ จึงได้ดำริให้มีการออกลอตเตอรี่รัฐบาลขึ้นโดยเรียกว่า “ลอตเตอรี่รัฐบาลสยาม” โดยพิมพ์ออกจำหน่ายจำนวน 1 ล้านฉบับ ๆ ละ 1 บาท ปีละ 4 งวด


ต่อมาในปี พ.ศ. 2477 คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยออกสลากกินแบ่งบำรุงเทศบาลโดยกำหนดว่า หากเดือนใดเป็นเดือนที่ออกสลากกินแบ่งรัฐบาล เดือนนั้นให้งดจำหน่ายสลากกินแบ่งของเทศบาล โดยเริ่มจำหน่ายงวดแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2478 แล้วออกสลากเดือนเมษายน พ.ศ. 2479 โดยพิมพ์จำนวน 500,000 ฉบับ ๆ ละ 1 บาท และได้มีการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลและสลากบำรุงเทศบาลเรื่อยมา


ในปี พ.ศ. 2482 ซึ่งถือเป็นยุคที่สลากกินแบ่งรัฐบาลเริ่มดำเนินการอย่างจริงจัง โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้โอนกิจการสลากกินแบ่งรัฐบาล และสลากบำรุงเทศบาล มาสังกัดกระทรวงการคลัง และได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลขึ้น โดยมีพระยาพรหมทัตศรีพิลาส เป็นประธานกรรมการ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2482 ในวันดังกล่าวจึงถือเป็นวันสถาปนาสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจนปัจจุบัน



และการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลก็ได้พัฒนาเรื่อยมาจนกระทั่งปี พ.ศ. 2517 ได้มีการออกพระราชบัญญัติสำนักงาน สลากกินแบ่งรัฐบาลขึ้น กำหนดให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นนิติบุคคล และเป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงการคลัง


นอกจากการดำเนินกิจการภายในประเทศแล้ว สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลยังได้มีการประสานงานและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและข้อมูลข่าวสารด้านกิจการสลากกินแบ่งกับต่างประเทศด้วย โดยการเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมสลากกินแบ่งโลก (World Lottery Association : WLA) และเป็นสมาชิกของสมาคมสลากกินแบ่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Asia Pacific Lottery Association : APLA) ตั้งแต่ปี พ.ศ.2543

(หมายเหตุ World Lottery Association พัฒนามาจากองค์การ International Association of State Lotteries ซึ่งสำนักงานฯ เป็นสมาชิกตั้งแต่ปี พ.ศ.2503)

ภารกิจหลักในการดำเนินงาน


สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล บริหารงานภายใต้พระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พุทธศักราช 2517 ที่ใช้บังคับตั้งแต่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2517 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
มาตรา 5 ข้อความว่า ให้จัดตั้งสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลขึ้น เรียกว่า "สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล" มีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
1.ออกสลากกินแบ่งรัฐบาล
2.จัดการโรงพิมพ์อันเป็นอุปกรณ์ในการพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาลหรือสิ่งพิมพ์อื่นที่คณะกรรมการให้ความเห็นชอบ
3.กระทำการอื่นใดที่เกี่ยวเนื่องหรือที่เป็นประโยชน์แก่การดำเนินกิจการของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล

ภารกิจสำคัญอีกประการหนึ่งคือ การจัดการโรงพิมพ์ อันเป็นอุปกรณ์ในการพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาล และสิ่งพิมพ์อื่นที่คณะกรรมการให้ความเห็นชอบ ปัจจุบันโรงพิมพ์สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลตั้งอยู่ที่ ซอยแยกเอกมัย ถ.สุขุมวิท 63


นอกจากการพิมพ์สลากกินแบ่งรัฐบาลแล้ว สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลยังได้มีการจัดพิมพ์สลากบำรุงการกุศล ใบตรวจผลการออกรางวัล รวมถึงงานพิมพ์อื่นที่รับจ้างจากภายนอก


ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสิ่งพิมพ์กันปลอมแปลงของหน่วยราชการที่คณะกรรมการให้ความเห็นชอบ อาทิ ตั๋วรถเมล์ ตั๋วรถโดยสาร บขส. บัตรผ่านทางของการทางพิเศษฯ สติ๊กเกอร์ของกรมสรรพสามิต แม้จะไม่สร้างกำไรให้เป็นจำนวนมากนัก เนื่องจากเป็นลักษณะของการให้ความช่วยเหลือ และรับพิมพ์งานในราคาต่ำกว่าโรงพิมพ์ของเอกชน แต่ก็นับว่าเป็นผลงานที่ภาคภูมิใจของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ในความมีศักยภาพและได้รับความไว้วางใจ

สูตรหวย1

สูตร เด่นบน 3 ตัวมา 1 ตัว
1. หน่วยครั้งที่4 2. แสน + สิบครั้งที่3
0 = 2 4 8 0 = 2 4 6
1 = 3 5 9 1 = 3 5 7
2 = 4 6 0 2 = 4 6 8
3 = 5 7 1 3 = 5 7 9
4 = 6 8 2 4 = 6 8 0
5 = 7 9 3 5 = 7 9 1
6 = 8 0 4 6 = 8 0 2
7 = 9 1 5 7 = 9 1 3
8 = 0 2 6 8 = 0 2 4
9 = 1 3 7 9 = 1 3 5

3. สิบบน + สิบบน + หน่วยบน 4. หน่วยล่าง + ร้อยครั้งที่1 + ร้อยครั้งที่3
0 = 3 4 9 0 = 2 3 7
1 = 4 5 0 1 = 3 4 8
2 = 5 6 1 2 = 4 5 9
3 = 6 7 2 3 = 5 6 0
4 = 7 8 3 4 = 6 7 1
5 = 8 9 4 5 = 7 8 2
6 = 9 0 5 6 = 8 9 3
7 = 0 1 6 7 = 9 0 4
8 = 1 2 7 8 = 0 1 5
9 = 2 3 8 9 = 1 2 6

ทุกสูตร บวกกันได้เท่าไหร่ เทียบตามล็อก ถ้าบวกกันได้เลขสองหลักเอาตัวท้ายเทียบ



สูตรสิบหน่วยบน-เน้นหลักสิบ
1. แสน + ร้อย + หน่วยล่าง + สิบครั้งที่1 + หน่วยครั้งที่1 (0123
0 = 0 1 2 3 8
1 = 1 2 3 4 9
2 = 2 3 4 5 0
3 = 3 4 5 6 1
4 = 4 5 6 7 2
5 = 5 6 7 8 3
6 = 6 7 8 9 4
7 = 7 8 9 0 5
8 = 8 9 0 1 6
9 = 9 0 1 2 7

2.ร้อย + สิบ + หน่วย + ร้อยครั้งที่1 + หน่วยครั้งที่3 (34569)
0 = 3 4 5 6 9
1 = 4 5 6 7 0
2 = 5 6 7 8 1
3 = 6 7 8 9 2
4 = 7 8 9 0 3
5 = 8 9 0 1 4
6 = 9 0 1 2 5
7 = 0 1 2 3 6
8 = 1 2 3 4 7
9 = 2 3 4 5 8


สูตรหลักสิบหน่วยบน- เน้นหลักหน่วย
1. ร้อย + ร้อย + หน่วย + หน่วย (01239)
0 = 0 1 2 3 9
1 = 1 2 3 4 0
2 = 2 3 4 5 1
3 = 3 4 5 6 2
4 = 4 5 6 7 3
5 = 5 6 7 8 4
6 = 6 7 8 9 5
7 = 7 8 9 0 6
8 = 8 9 0 1 7
9 = 9 0 1 2 8

2. หมื่น + ร้อย + หน่วยล่าง + ร้อยครั้งที่1 + สิบครั้งที่4 (1345
0 = 1 3 4 5 8
1 = 2 4 5 6 9
2 = 3 5 6 7 0
3 = 4 6 7 8 1
4 = 5 7 8 9 2
5 = 6 8 9 0 3
6 = 7 9 0 1 4
7 = 8 0 1 2 5
8 = 9 1 2 3 6
9 = 0 2 3 4 7



สูตรร้อยสิบหน่วยบน-เน้นหลักร้อย

1.สิบ + สิบ (1345 2.หมื่น + ร้อย + ร้อยครั้งที่1 + สิบครั้งที่4 (03457)
0 = 1 3 4 5 8 0 = 0 3 4 5 7
1 = 2 4 5 6 9 1 = 1 4 5 6 8
2 = 3 5 6 7 0 2 = 2 5 6 7 9
3 = 4 6 7 8 1 3 = 3 6 7 8 0
4 = 5 7 8 9 2 4 = 4 7 8 9 1
5 = 6 8 9 0 3 5 = 5 8 9 0 2
6 = 7 9 0 1 4 6 = 6 9 0 1 3
7 = 8 0 1 2 5 7 = 7 0 1 2 4
8 = 9 1 2 3 6 8 = 8 1 2 3 5
9 = 0 2 3 4 7 9 = 9 2 3 4 6



สูตรดับบน 100 งวด
ดับหลักร้อย
1.หน่วยบน + หน่วยบน + ร้อยครั้งที่1 + ร้อยครั้งที่1 + 6
2.สิบครั้งที่2 + สิบครั้งที่2 + ร้อยครั้งที่4 + หน่วยครั้งที่4 + 5
ดับหลักสิบบน
1.สิบล่าง + หน่วยครั้งที่3 + 1
2.ร้อยครั้งที่1 + ร้อยครั้งที่1 + หน่วยครั้งที่1 + 0
ดับหลักหน่วยบน
1.ร้อย + ร้อย + หน่วยครั้งที่1 + หน่วยครั้งที่1 + 3
2.แสน + หน่วยล่าง + หน่วยล่าง + สิบครั้งที่4 + สิบครั้งที่4 + 6


มีสูตรง่ายๆมาให้ลองดูกันนะคะเผื่อจะนำไปประกอบในการคำนวนได้บ้างไม่มากก็น้อย



ให้ดูหลักหน่วยรางวัลที่ 1 แล้วนับต่ออีก 3ตัวรวมเป็น4ต้วทั้งหลักหน่วยด้วยจะมางวดต่อไป1-2ตัว

ต้วอย่างเช่น16/01/50ออก739นับต่อได้9-0-1-2จะมางวด1/02/50 ผลออก925 งวดต่อไปได้5-6-7-8 ผลออก859งดต่อมาได้ 9-0-1-2ผลออก425งวดต่อมาได้5-6-7-8ผลออก763 คิดง่ายๆเบาสมองนะ

วิธีตรวจดูสลากบาร์โค้ดด้วยตนเองในเบื้องต้น


เลขประจำสลาก เป็นเลขสำหรับตรวจผลรางวัลประจำงวด
เลขพิสูจน์สลาก เป็นเลขสำหรับเครื่องตรวจและสั่งจ่ายเงินรางวัล
รหัสบาร์โค้ด เป็นสื่อประจำตัวสลาก สำหรับอ่านด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์โดยสลากแต่ละฉบับจะมีรหัสบาร์โค้ดไม่เหมือนกัน
ตัวอักษรภาษาอังกฤษ กำกับอยู่ใต้ตัวเลขประจำสลาก
สัญลักษณ์ประจำสลาก เป็นภาพหรือเครื่องหมายใดๆ ประจำสลากแต่ละฉบับโดยแต่ละงวด

ความหมายของตัวอักษรภาษาอังกฤษที่กำกับใต้ตัวเลขประจำสลาก
0 1 2 3 4 5 6 7 8 9
ZER ONE TWO THR FOR FIV SIX SEV EGT NIN


วิธีตรวจดูสลากบาร์โค้ดด้วยตนเองในเบื้องต้น
1. เนื้อกระดาษสลากมีสีค่อนข้างเหลือ มีความบาง เนียนเรียบ แต่เหนียว
2. เมื่อนำกระดาษขึ้นส่องกับแสงสว่าง จะเห็นลายน้ำรูปวายุภักษ์ ในเนื้อกระดาษได้อย่างชัดเจน
3. เส้นไหมที่อยู่ในเนื้อกระดาษมี 2 ชนิด คือเส้นไหมที่เห็นได้ด้วยตาเปล่า กับเส้นไหมที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งจะต้องใช้แสงอุลตร้าไวโอเลต ช่วยในการดูโดยเมื่อส่องกระทบจะมองเห็นเส้นไหมเรืองแสงขึ้นมา
4. กระดาษที่ใช้พิมพ์สลากจะมีสารเคมีเคลือบไว้สามารถทดสอบได้โดยใช้สารฟอกสี เช่น น้ำมันเบนซินหรือไฮเตอร์ เมื่อหยดลงบนกระดาษที่พิมพ์สลากจะเกิดรอยด่างเป็นดวงบนเนื้อกระดาษแต่ถ้าไม่ใช่กระดาษที่พิมพ์สลากจะไม่เกิดปฏิกิริยาใดๆทั้งสิ้น